ความแตกต่างของราคาบัตรชมภาพยนตร์ทั่วโลก

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2438 เมื่อพี่น้อง Lumière ได้แสดงให้โลกเห็นถึง “ภาพยนตร์” โรงภาพยนตร์ได้นำเสนอความบันเทิงมากมาย ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ผู้คนไปโรงภาพยนตร์เพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจจากความเป็นจริงที่น่ากลัว ในอีกกรณีโรงภาพยนตร์นั้นถูกใช้เป็นกลไกสำหรับการโฆษณาชวนเชื่อและค่านิยมทางความคิด

อย่างไรก็ตามรายงานนี้ Picodi.com นั้นไม่ได้มุ่งเน้นว่าภาพยนตร์มีผลกระทบต่อผู้คนอย่างไร แต่จะเป็นในส่วนของเรื่องการเงินราคา ประการแรกเราตรวจสอบความแตกต่างของราคา ระหว่างภาพยนตร์ 2D และ 3D ประการที่สองเราเปรียบเทียบราคาบัตรชมภาพยนตร์ในวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์

อุปกรณ์เสริมราคาแพง

สำหรับทุกประเทศที่ Picodi ได้ทำการวิเคราะห์ จะเห็นได้ว่าเซสชัน 3D มีราคามากกว่าเซสชัน 2D ไม่ใช่เฉพาะในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกเท่านั้นแต่ในทั่วโลก โรงภาพยนตร์บางแห่งนั้นไม่สามารถให้แว่น 3D สำหรับภาพยนตร์ในทุกๆครั้ง ในบางแห่งลูกค้าสามารถซื้อแว่นตา 3D หรือนำมาเองได้ อีกอย่างคือค่าใช้จ่ายในการซื้อแว่นตาดังกล่าวในโรงภาพยนตร์สามารถสูงกว่าราคาขายส่งถึง 5 เท่า

ในบางประเทศความแตกต่างของราคาบัตรชมภาพยนตร์ 2D และ 3D อาจจะแตกต่างกันมากกว่า 30% ตัวอย่างเช่นในเยอรมนีนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอยู่ที่ € 3 (104บาท) สำหรับภาพยนตร์ 3D คุณจำเป็นต้องจ่ายเพิ่มเติม 1 € (35 บาท) สำหรับแว่นตา 3D หมายความว่าการรับชมภาพยนตร์ในแบบ 3D จะมีราคาแพงกว่าเซสชันมาตรฐานถึง 45%

เราได้สังเกตุเห็นว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงสำหรับภาพยนตร์ 3D ใน เวียดนาม (43%) ปากีสถาน (33%) และอิตาลี (31%)

ในประเทศไทยนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับ 3D มีราคาสูงกว่า 29% จากราคาตั๋วมาตรฐาน จำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่ายสำหรับการดูนักแสดงที่คุณชื่นชอบบนหน้าจอ 3D ในสิงคโปร์และซาอุดิอาระเบียคือ (4% และ 6% ตามลำดับ) ในบางประเทศไม่มีการฉาย 3D ในเดือนกรกฎาคมซึ่งไม่สามารถทำให้การเปรียบเทียบราคาได้

เมื่อพูดถึงราคาบัตรชมภาพยนตร์ราคามาตรฐานหลังจากแปลงสกุลเงินท้องถิ่นเป็นดอลลาร์ปรากฎว่า บัตรชมภาพยนตร์ที่แพงที่สุดซึ่งอยู่ที่ญี่ปุ่นและฮ่องกง (ราคาของบัตรชมภาพยนตร์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ 2D อยู่ที่ประมาณ $16.50) ในอีกทางหนึ่งโรงภาพยนตร์ราคาถูกที่สุดอยู่ที่ปากีสถานและเม็กซิโก ($3.80 และ $3.40 ตามลำดับ)

จะไปโรงภาพยนตร์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ … หรือวันธรรมดา?

ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ความนิยมของภาพยนตร์ที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะวัดได้จากการเปิดตัวและบ็อกซ์ออฟฟิศสุดสัปดาห์ ข้อมูลจากโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ ในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลกยืนยันว่า คนส่วนใหญ่ไปดูหนังในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในช่วงสามวันนี้จะขายตั๋วได้เพิ่ม 55% – 65% ของตั๋วทั้งหมด

คนไทยที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์จะต้องจ่ายเพิ่ม 20% สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อเทียบกับการชมภาพยนตร์ในวันธรรมดา แต่จากข้อมูลนี้ก็ยังไม่สูงเท่ากับในอินโดนีเซียหรือสิงคโปร์ (50% ต่อคน) แต่ถึงกระนั้นในประเทศส่วนใหญ่ที่ได้ทำวิเคราะห์ราคายังคงเดิมสำหรับวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์

ระเบียบวิธีการจัดหาข้อมูล

อ้างอิงข้อมูลราคามาจากเว็บไซต์ทางการโรงภาพยนตร์ในเครือ สำหรับข้อมูลในรายงานนี้ ไม่รวมถึงโรงภาพยนตร์อิสระ การฉายรอบปฐมทัศน์ และยอดขายตั๋วโปรโมชั่นอื่น ๆ การวิจัยครั้งนี้มีข้อมูลพื้นฐานมาจากการชมภาพยนตร์ในช่วงเย็นของเดือนกรกฎาคม 2562 ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในเมืองหลวง สำหรับการแปลงสกุลเงินใช้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยสำหรับเดือนกรกฎาคม 2562

คุณชอบดูหนังที่บ้านกว่าหรือไม่? แม้จะสมัครสมาชิก Netflix คุณยังสามารถรับเงินคืนได้ หากคุณซื้อบัตรของขวัญจากเว็บไซต์ Shopee หรือ Lazada

แหล่งที่มา

• https://www.independent.ie/entertainment/movies/how-the-great-depression-inspired-hollywoods-golden-age-26481978.html
• http://soviethistory.msu.edu/1924-2/socialist-cinema/socialist-cinema-texts/lenin-on-the-most-important-of-the-arts/
• https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000154263
• https://www.quora.com/Who-bears-the-cost-of-3D-glasses-given-at-movies-viewer-movie-producer-or-the-theater-owner/answer/Rohit-Nirbhavane

การใช้งานสาธารณะ

ข้อมูลและอินโฟกราฟิกทั้งหมดที่นำเสนอในรายงานนี้สามารถใช้ได้อย่างอิสระทั้งในเชิงพาณิชย์และไม่ใช่เชิงพาณิชย์ กรุณาระบุผู้เขียนงานวิจัย (Picodi.com) พร้อมลิงค์ไปยังหน้าย่อยนี้ หากคุณมีคำถามใด ๆ โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา: research@picodi.com