ดัชนีน้ำมันเชื้อเพลิง: เราซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงได้กี่ลิตรจากรายได้เฉลี่ย?

ข้อความนี้ล้าสมัยแล้ว ข้อมูลล่าสุดสามารถเข้าถึงได้ที่ ลิงก์นี้

นักวิเคราะห์ของเราที่ Picodi.com ได้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 และคำนวณจำนวนน้ำมันที่สามารถซื้อได้สำหรับค่าจ้างเฉลี่ยในไทย

ราคาน้ำมันแพงขึ้นเท่าตัว

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ในหลายประเทศในภูมิภาคของเรา ได้พบว่าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นทำลายสถิติ หนึ่งในประเทศที่ต่อต้านการเพิ่มขึ้นของราคานี้คือประเทศศรีลังกา ซึ่งราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 129.5%

ในเดือนมิถุนายน ราคาน้ำมันเฉลี่ยหนึ่งลิตรในไทยอยู่ที่ 53.19 บาท ราคานี้สูงกว่าเดือนมกราคม 32.7% ที่ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ย 1 ลิตร ราคา 40.07 บาท คนที่มีรถใช้ในประเทศฟิลิปปินส์ (+36.9%) อินโดนีเซีย (+47.7%) และปากีสถาน (+52.2%) สามารถสัมผัสได้ถึงราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

ในประเทศมาเลเซีย ราคาน้ำมันทรงตัวตลอดครึ่งปีแรก ในประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ไต้หวัน และญี่ปุ่น ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (+1.3%, +2.4% และ +3.1% ตามลำดับ)

ดัชนีน้ำมันปี 2565

ชาวฮ่องกง ชาวสิงคโปร์ และชาวนิวซีแลนด์ต่างจ่ายค่าน้ำมันมากที่สุด โดยจ่าย $3.00/ลิตร, $2.33/ลิตร และ $2.09/ลิตร ตามลำดับ สำหรับประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยอยู่ที่อันดับ 7 จาก 17 ประเทศทีนำมาเปรียบเทียบ คิดเป็น 1.52 ดอลลาร์/ลิตร พลเมืองมาเลเซีย (0.47 ดอลลาร์/ลิตร) และไต้หวัน (1.05 ดอลลาร์/ลิตร) ยังคงสามารถเพลิดเพลินกับราคาน้ำมันที่ต่ำได้อยู่

ปีนี้เราได้ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันกับค่าจ้างเฉลี่ยในท้องถิ่นด้วย

(คลิกที่ลูกศรเพื่อดูข้อมูลจาก 16 ประเทศที่มีอยู่ในเมนู)

ด้วยค่าแรงเฉลี่ย ผู้ขับขี่จากออสเตรเลีย (2,917 ลิตร) มาเลเซีย (1,790 ลิตร) และไต้หวัน (1,583 ลิตร) สามารถซื้อน้ำมันเบนซินได้มากที่สุด

จากข้อมูลล่าสุดที่นำเสนอโดย NUMBEO ค่าจ้างเฉลี่ยสุทธิในไทยยู่ที่ 18,192.00 บาทต่อเดือน ซึ่งหมายความว่าชาวไทยโดยเฉลี่ยสำหรับค่าจ้างรายเดือนเฉลี่ยสามารถซื้อน้ำมันได้ 342 ลิตร เมื่อเทียบกับดัชนีน้ำมันเบนซินของปีที่แล้ว กำลังซื้อต่อค่าจ้างเฉลี่ยของคนไทยในบริบทของน้ำมันเบนซินลดลงอย่างมาก

และนี่คือลักษณะของดัชนีน้ำมันเบนซินของไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา:

• 2562 – 309 ลิตร
• 2563 – 657 ลิตร
• 2564 – 578 ลิตร
• 2565 – 342 ลิตร

ราคาน้ำมันทั่วโลก: ราคาไม่ได้ขึ้นทุกที่

การมีแหล่งวัตถุดิบจำนวนมากช่วยให้บางประเทศประหยัดจากการขึ้นราคาน้ำมัน ประเทศต่างๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย คูเวต และกาตาร์ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก รัฐบาลของประเทศต่างๆ เช่น โคลัมเบีย เอกวาดอร์ และคาซัคสถาน ได้ตัดสินใจที่จะระงับหรือจำกัดราคาน้ำมันสูงสุด

(เลื่อนเมาส์ผ่านแผนที่ของแต่ละประเทศเพื่อดูข้อมูล)

ในเดือนมิถุนายนปี 2565 ราคาน้ำมันเบนซินต่ำสุดคือประเทศแอลจีเรีย ($0.31/ลิตร) คูเวต ($0.34/ลิตร) และอิหร่าน ($0.35/ลิตร) ในทางกลับกัน ฮ่องกงเป็นประเทศที่แตกต่างออกไปจากประเทศเหล่านี้โดยสิ้นเชิง ในฐานะที่ประเทศที่มีราคาน้ำมันสูงสุดต่อลิตร ($3/ลิตร)

ในการจัดอันดับกำลังซื้อทั่วโลก ประเทศที่ครองตำแหน่งยังคงเป็นของกลุ่มประเทศติดอ่าว ได้แก่ กาตาร์ (5,968 ลิตร) คูเวต (5,578 ลิตร) และซาอุดีอาระเบีย (4,372 ลิตร)

ประเทศที่ยากจนที่สุดในการเปรียบเทียบนี้คือคิวบา ซึ่งค่าจ้างเฉลี่ยเท่ากับน้ำมันเบนซินเพียง 27 ลิตรเท่านั้น

จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น การจอดรถไว้ในโรงรถอาจเป็นความคิดที่ดี ที่ Picodi ให้คุณเดินทางด้วย traveloka, AirAsia และ Thai Smile พร้อมรับเงินคืนจากการใช้จ่ายของคุณ

วิธีการจัดหาข้อมูล

ดัชนีน้ำมันเป็นการจัดอันดับประจำปีของความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ำมันและเงินเดือนที่จัดทำโดย Picodi ตั้งแต่ปี 2562

การศึกษานี้ใช้ข้อมูลค่าจ้างเฉลี่ยล่าสุดที่เผยแพร่ทางออนไลน์โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติหรือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ในประเทศที่ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เราใช้สถิติจาก Numbeo

ราคาน้ำมันเฉลี่ยใน 102 ประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นำมาจาก GlobalPetrolPrices.com และแหล่งข้อมูลอื่นๆ ในท้องถิ่น ส่วนต่างระหว่างราคาในเดือนมิถุนายนและมกราคมคำนวณเป็นสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อให้ได้จำนวนลิตร เราหารค่าจ้างสุทธิเฉลี่ยต่อเดือน (ได้มาจากการคำนวณค่าจ้างในท้องถิ่น) ด้วยราคาเฉลี่ยของน้ำมัน 1 ลิตร สำหรับการแปลงสกุลเงิน เราใช้ข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยจาก Google Finance สำหรับเดือนมิถุนายน 2565

การเผยแพร่ในที่สาธารณะ

คุณต้องการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับราคาน้ำมันและกำลังซื้อของค่าจ้างในไทยและทั่วโลกกับผู้อ่านของคุณหรือไม่? คุณสามารถใช้ข้อมูลและอินโฟกราฟิกที่แสดงในรายงานนี้ทั้งเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์และไม่ใช่เชิงพาณิชย์ได้อย่างอิสระ ตราบใดที่คุณระบุผู้เขียนงานวิจัยนี้ (Picodi.com) พร้อมลิงก์ไปยังหน้าย่อยนี้ หากคุณมีคำถามใดๆ โปรดติดต่อเราได้ที่: research@picodi.com